โคลงเคลงเลื้อย

ชื่อ : โคลงเคลงเลื้อย

ชื่อสามัญ : Malabar gooseberry, Malabar melastome, Melastoma, Indian rhododendron, Singapore rhododendron , Straits rhododendron

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Melastoma malabathricum L.

ชื่อวงศ์ : MELASTOMATACEAE

ชื่อท้องถิ่น : โคลงเคลงขี้นก โคลงเคลงขี้หมา (ตราด), มายะ (ชอง-ตราด), อ้า อ้าหลวง (ภาคเหนือ), เบร์ มะเหร มังเคร่ มังเร้ สาเร สำเร (ภาคใต้), ซิซะโพ๊ะ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี), ตาลาเด๊าะ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), กะดูดุ กาดูโด๊ะ (มลายู-ปัตตานี), เหม่

ลักษณะ

ต้นโคลงเคลงมีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย มาเลเซีย ออสเตรเลีย โดยจัดเป็นไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านเป็นสีน้ำตาลแดง กิ่งเป็นเหลี่ยม ทุกส่วนของลำต้นมีขนละเอียดสีน้ำตาลอ่อนปกคลุม
ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการใช้เมล็ดและวิธีการแยกกอ กระจายพันธุ์ด้วยเมล็ด สามารถเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ โดยพันธุ์ไม้ในสกุลนี้ ในเมืองไทยมีอยู่ประมาณ 10 กว่าชนิด แต่สำหรับชนิดนี้จะพบขึ้นได้ตามที่ลุ่ม
ในพื้นราบที่ชุ่มชื้น ขอบป่าพรุ ตลอดจนถึงบนภูเขาสูงทั่วทุกภาคของประเทศไทย

ใบโคลงเคลงใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามกันเป็นคู่ ๆ และสลับตั้งฉาก ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอก ปลายใบและโคนใบแหลม มีขนาดกว้างประมาณ 7-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 4-14 เซนติเมตร
แผ่นใบค่อนข้างแข็ง ผิวใบมีเล็ดเล็กแหลม มีเส้นใบออกจากโคนใบไปจรดกันที่ปลายใบประมาณ 3-5 เส้น ส่วนเส้นใบย่อยเรียงแบบขั้นบันไดและไม่มีหูใบ

ดอกโคลงเคลงดอกออกเป็นช่อที่ปลายยอด ช่อละประมาณ 3-5 ดอก ดอกเมื่อบานจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-5 เซนติเมตร ดอกเป็นสีม่วงอมสีชมพู โดยทั่วไปดอกจะมีกลีบดอก 5 กลีบ หรือมีกลีบ 4 กลีบ
หรือ 6 กลีบก็มี ส่วนกลีบเลี้ยงดอกมี 5 กลีบ มีถ้วยรองดอกปกคลุมด้วยเกล็ดแบนเรียบ ดอกเป็นช่อแบบสมบูรณ์เพศ ดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลือง 10 ก้านเรียงเป็นวง 2 วง และมีรยางค์สีม่วงโค้งงอ ส่วนรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี แต่จะมีมากในช่วงฤดูฝน

ผลโคลงเคลงผลมีลักษณะคล้ายลูกข่าง มีขนาดกว้างประมาณ 6 เซนติเมตรและยาวประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร และมีขนปกคลุม เนื้อในผลเป็นสีแดงอมสีม่วง ผลเมื่อแก่เปลือกผลจะแห้งแล้วแตกออกตามขวาง
ผลมีความยาวประมาณ 0.5-1.2 เซนติเมตร ภายในผลมีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก หรือผลมีเนื้อนุ่มอยู่หลายเมล็ด

ประโยชน์

  1. ใบอ่อนใช้เป็นอาหาร รับประทานเป็นผักสดทั่วไป
  2. ใบนำมาใช้รูดปลาไหล ช่วยขัดเมือกได้ดี
  3. ผลสุกใช้รับประทานได้ โดยจะมีรสหวานอมฝาด
  4. ปัจจุบันต้นโคลงเคลงเริ่มได้รับความนิยมใช้ปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับเพื่อตกแต่งในสวนหย่อม เนื่องจากมีทรงพุ่มและดอกที่สวยงาม

แหล่งอ้างอิง

medthai.com/โคลงเคลง/

Scroll to Top